วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557

การวางโค้ง

โค้งกลับทิศ ( INVERSION )
ตามปกติโค้งผสมจะมีจุดศูนย์กลางอยู่ข้างเดียวกัน แต่ในกรณีที่โค้งผสมมีจุดศูนย์กลางอยู่ตรงข้ามกันนั้น เราเรียกโค้งดังกล่าวว่าโค้งกลับทิศ หรือ Reverse curve โค้งกลับทิศจะประกอบด้วยโค้งสองโค้งโดยมีจุดร่วม หรือ PRC(Point of reverse curve) หรือมีเส้นสัมผัสร่วมที่ต่อเชื่อมกันระหว่างโค้งเรียกว่า Intermediate tangent โค้งกลับทิศมักใช้ในภูมิประเทศที่เป็นภูเขา หรือในเขตเมืองที่ไม่สะดวกต่อการรื้อตำแหน่งของเส้นโค้งทั้งสอง 
จากรูประยะทางจาก ถึง สามารถใช้ความสัมพันธ์ดังต่อไปนี้
ระยะระหว่างสองเส้นสัมผัส (PC1 ระยะทางเป็นระยะทางบวกจาก B ไป PT2) ซึ่งกำหนดให้เป็น "p" สามารถคำนวณได้โดยใช้สูตรต่อไปนี้
องค์ประกอบโค้งแต่ละเส้นจะสามารถแก้ไขได้สำหรับองค์ประกอบโค้งเป็นของรัศมีของทั้งสองเส้นโค้งที่มีค่าเท่ากันแล้ว
โค้งวงกลม ( CIRCULAR  CURVE )
ส่วนประกอบของเส้นวงกลม
PI       คือ จุดสกัด หรือจุดตัดระหว่างแนวเส้นตรงสองแนว ที่มีการเชื่อมโยงด้วยโค้งแนวราบ
∆        คือ มุมบ่ายเบนที่จุด PI
T        คือ ระยะสัมผัสส่วนโค้ง
E        คือ ระยะจากจุดสกัดถึงจุดกึ่งกลางของโค้งแนวราบ
M       คือ ระยะจากกึ่งกลางของเส้นคอร์ดถึงจุดกึ่งกลางของ โค้งแนวราบ
L        คือ ความยาวโค้ง
C        คือ ความยาวของเส้นคอร์ด
R        คือ รัศมีโค้ง
PC      คือ จุดต้นโค้ง
PT      คือ จุดปลายโค้ง
การคำนวณระยะสัมผัสส่วนโค้ง ; 
การคำนวณความยาวของเส้นคอร์ด 

การคำนวณความยาวโค้ง ; 
การคำนวณระยะจากกึ่งกลางของเส้นคอร์ดถึงจุดกึ่งกลางของโค้งแนวราบ ;  
องศาโค้ง
          องศาโค้ง จะเป็นตัวบอกรัศมีโค้งซึ่งจะนำไปใช้ในการออกแบบ
           ในกรณี Arc Definition องศาโค้ง คือ จำนวนมุมที่จุดศูนย์กลางที่รองรับโค้ง (arc) ยาวเท่ากับ 100 เมตร เป็นความยาวมาตรฐานของโค้งจะหา R ได้จากสัดส่วน
**หมายเหตุ 
      1.ห้ามใช้     
      2.คอร์ด AB จะยาวน้อยกว่า 100 เมตร
     3.สำหรับระยะเป็นฟุตใช้สูตรเหล่านี้ได้ ระยะ 100 เมตร ใช้ 100 ฟุตแทนได้เลย การวางโค้งจะวางทุกๆ100 ฟุต เพราะฉะนั้น STA 50+50.75 = 5050.75 ฟุต

           ในกรณี Chord Definition องศาโค้ง คือ จำนวนมุมที่จุดศูนย์กลางที่รองรับคอร์ด ยาวเท่ากับ 100 เมตร เป็นความยาวมาตรฐานของโค้งจะหา R ได้จากสัดส่วน
มุมเห
ความสัมพันธ์ระหว่าง Deflection Angle,arc, chord

โค้งผสม (COMPOUND CURVE )
โค้งผสม คือ โค้งที่ประกอบด้วยโค้งวงกลมหลายโค้งมาต่อกันและจุดศูนย์กลางโค้งทั้งหมดจะอยู่ซีกเดียวกันของเส้นสัมผัส และรัศมีของโค้งที่เชื่อมต่อกัน จะยาวไม่เท่ากัน                         
ประโยชน์ของโค้งผสม
1. ใช้ในบริเวณที่เป็นภูเขาเพื่อปรับเส้นทางถนนให้เข้ากับภูมิประเทศและเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการสัญจร
2. ใช้ในการออกแบบช่องทางสำหรับเลี้ยวในกรณีที่ถนนสายหลักกับถนนสายรองมาตัดกัน
3. ใช้ในบริเวณทางต่อเชื่อมระหว่างถนนและทางด่วน (Ramp) ที่บริเวณ ทางขึ้นหรือทางลง หรือใช้ในการออกแบบโค้ง ของทางแยกต่างระดับ (Interchange) โดยใช้ร่วมกับโค้งก้นหอย
มุมเหที่ V คือผลรวมของสองมุมกลางของทั้งสองเส้นโค้ง ในการหาค่าจุดAมีการตั้งค่า เพื่อให้มีมุม 90 องศา จากเส้นสัมผัสแรกเส้นโค้งเชื่อมต่อไปยังจุดเส้นโค้งที่สอง จะหา PC1A ได้จาก

ที่มา : http://www.tech.mtu.edu/courses/su3150/Reference%20Material/dsm08.pdf

PARTY งานใน ROUTE SURVEY

การวางแนวทาง (Alignment Party)

          แนวทางทั่วไปในการวางแนวถนน ทางรถไฟ คลองชลประทาน สายไฟ จะมีทั้งแนวตรงและแนวโค้ง สำหรับสายไฟฟ้าแรงสูงจะเป็นเส้นตรงส่วนมาก
          หน้าที่ของบุคคลในการวางแนวทาง มีดังนี้
                   1.คนส่องกล้อง
                   2.ผู้ช่วยคนส่องกล้อง
                   3.ผู้จดบันทึก
                   4.คนวัดระยะ ทำ RP POT
                   5.คนเป้า
                   6.คนงานถางป่า,หลุม,ทาสี
          เครื่องมือที่ใช่ในการวางแนวทาง 

1.กล่องวัดมุม                        2.ปริซึม
3.ขาตั้งกล้อง                        4.หลักเล็ง
5.โพล                                    6.ร่ม
7.ลูกน้ำ                                  8.เทปวัดระยะ
9.ตะปู-ค้อน                           10.สีสเปรย์
11.สมุดสนาม                        12.เชือก

งานระดับตามแนวทางและหมุดระดับ (Profile & BM Party)

การถ่ายระดับ BM เป็นการหาค่าระดับของหมุดระดับ ถ่ายต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นงานระดับชั้นที่ 1 กรมแผนที่ทหารจะเป็นผู้วางการถ่าย ค่าระดับของ TP เราเพียงแต่หาค่า Differemee ระหว่างจุดสองจุด แล้วนำไปคำนวณ การปรับแก้เสียก่อน จึงจะนำค่า BM ต่างๆ ไปใช้ระหว่างจุด 2 จุด



ก่อนอื่นต้องรู้จักกับคำเหล่านี้ก่อน

F - RUN    หมายถึง การถ่ายระดับไป

B - RUN    หมายถึง การถ่ายระดับกลับ

Diff in F - Run    หมายถึง ค่าผลต่างระดับซึ่งได้มาจากการถ่ายระดับไป

Diff in B - Run    หมายถึง ค่าผลต่างระดับซึ่งได้มาจากการถ่ายระดับกลับ

Dist    หมายถึง ระยะทาง



การปรับแก้ค่าระดับ

ในการถ่ายระดับในสนามนั้นจะต้อง ถ่ายระดับไป - กลับ จะได้ค่าความต่างระดับสองค่า ซึ่งทั้งสองค่า จะต้องอยู่ในข้อกำหนดที่ยอมให้ เสร็จแล้วจึงทำการเฉลี่ย นำไปคำนวณปรับแก้ค่าระดับ BM ต่อไป การปรับแก้ระดับสานเดี่ยว (single line) แบบวงรอบเปิด วิธีนี้เหมาะ กับการใช้งานสำรวจเส้นทางต่างๆ เช่น ท่อ สายไฟฟ้าแรงสูง คลอง ถนน ซึ่งช่างสำรวจ จะต้องปรับ แก้ค่า BM ให้ถูกก่อนจึงจะนำไปใช้ในการคำนวณ Profile หรือ Cross section หรือกำหนด grade หรือการหาจุด Toe 

วิธีนี้จะต้องรู้ค่าระดับ ของ BM แรกและ BM ที่เข้าบรรจบ จึงจะทำการแก้ได้ ซึ่งปกติ BM ที่มีค่าคงที่นี้ใน ประเทศไทยจะเป็นของกรมแผนที่ทหาร



งานระดับตามขวางแนวทาง (Cross Section Party)



การทำ Cross-section คือ การหาระดับดินเดิม existing groan ไปในแนว ตั้งฉากกับเส้นฐานกับแนวสำรวจ หรือ ตั้งฉากกับแนว Center line ของการทำ profile ค่าระดับดินเดิมที่ได้นำลงมาเขียนในกระดาษเขียนแบบ จุดประสงค์ คือค่าของงานดิน ให้ได้ความจริงมากที่สุด การเก็บค่าระดับดินเดิมบางจุดบน station ที่มีผลทำให้ระดับดินเดิม ซึ่งนำ มาคำนวณแล้ว ได้ค่าที่ผิด จากความเป็นจริงมาก ให้หลีกเลียงการหาระดับจากจุดที่ใกล้เคียง ซึ่งเมือนำไป  คำนวณ จะได้ค่าที่ใกล้เคียงกว่ามากกว่า

วิธีการทำ Cross-section งานสนาม
หมุดที่ใช้ทำระดับ คือ BM TBM บน Center line ของงาน profile การทำงานจะต้องสร้างแนวCenter lineตรงที่กำหนด ในกรณี ที่ต้องเพิ่มหมุดเสริมเป้าไปอีก เช่น บริเวรที่มีพื้นที่แตกต่างกันมาก

จุดที่ต้องทำ Cross-section
1.ทุกจุด station ของงาน Profile
2.ทุกจุดที่มีท่อ
3.ทุกจุดที่มีทางน้ำ
4.คอสะพานและทุกจุดของทางแยก

ขอบเขตของการเก็บ Cross-section
การเก็บระดับทำกันตามแนวกว้างยาวว่า เช่นต้องการถนนกว้าง 10 เมตรและในกรณีการทำการขุดลอกแหล่งน้ำ คลองส่งน้ำ ต้องเก็บระดับตลิ่ง คลองข้างละไม่น้อยกว่า 10 เมตร

ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
กำหนดจุด Center line จุดละ 25 เมตร กำหนดด้าน RT และ LT เพื่อใช้ตั้ง staff เมื่อต้องการย้ายกล้องให้ส่อง TP ทุกครั้ง



4. งานสำรวจภูมิประเทศ  ( TOPOGRAPHIC  SURVEY )


งานสำรวจภูมิประเทศ ( TOPOGRAPHIC  SURVEY ) คือ การแสดงภาพสิ่งต่างๆ ที่ปรากฏบนพื้นผิวของโลก ลงบนระนาบสองมิติ ด้วยขนาดย่อส่วนหรือมาตราส่วน   (scale)  ที่เหมาะสมโดยแทนสิ่งต่างๆด้วยลักษณะ ทั้งชนิดเส้น ( linetypes ) และเครื่องหมาย (symbols)  ต่างๆ โดยอ้างอิงกับระบบพิกัดที่ใช้ในการรังวัด รายละเอียดทางตำแหน่ง   ได้แก่   ถนน   อาคาร   เสาไฟฟ้า  ต้นไม้  สิ่งปลูกสร้างต่างๆ เป็นต้นเหล่านี้เรียกว่า  “ รายละเอียดทางราบ” (horizontal  details) รวมทั้งการแสดงความสูงต่ำของพื้นที่ด้วยเส้นชั้นความสูง (contour line) และจุดระดับความสูง (spot height)เรียกว่า รายละเอียดทางดิ่ง” (vertical details)แผนที่เป็นสิ่งสำคัญ    สำหรับงานโครงการทางสถาปัตยกรรมที่ใช้การออกแบบภูมิทัศน์    และโครงการทาง วิศวกรรมเพื่อใช้ในการออกแบบก่อสร้างทางด้านสาธารณูปโภคต่างๆ   เช่น   ออกแบบทางคลองชลประทาน การบริหารจัดการทางด้านทรัพยากรน้ำ  และสิ่งแวดล้อม   เป็นต้น   แผนที่ภูมิประเทศจึงเป็นผลผลิตที่ต้องมี ความเข้าใจการดำเนินการ เพื่อให้ได้ความถูกต้องที่เหมาะสมกับการใช้งานและมีค่าใช้จ่ายไม่สูงเกินไป


ขั้นตอนการรังวัดแผนที่ภูมิประเทศ
เมื่อมีความต้องการแผนที่ภูมิประเทศพื้นที่หนึ่งนั้น    สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ ความต้องการในการใช้งาน ได้แก่ มาตราส่วนแผนที่  ช่วงเส้นชั้นความสูง  ประเภทรายละเอียดต่างๆ ที่ต้องจัดเก็บ โดยสามารถแสดงราย ละเอียดนั้น ปรากฏบนแผนที่ที่มาตราส่วนตามต้องการ  จากความต้องการเหล่านี้ จึงนำมาพิจารณาถึงขั้นตอน กรรมวิธี มาตรฐานการรังวัดแต่ละขั้นตอน รวมทั้งการกำหนดชนิดเครื่องมือสำรวจที่ใช้

ขั้นตอนการดำเนินงานรังวัดแผนที่ภูมิประเทศประกอบด้วยขั้นตอนหลักๆ ดังนี้
1)  การสำรวจสังเขป  ( reconnaissance)
2)  การสำรวจรังวัดหมุดควบคุม (control  survey)
3)  การสำรวจรังวัดเก็บรายละเอียด (details  survey)
4)  การเขียนแผนที่ภูมิประเทศ ( plotting )
5)  การตรวจสอบความถูกต้องข้อมูลแผนที่ภูมิประเทศ ( field  check )

วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

บทนำ (Introduction)

ROUTE  SURVEYING 


 Introduction

การสำรวจของผิวโลกตามเส้นทางโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรวบรวมและการปรับปรุงภูมิประเทศทางธรณีวิทยาของดินและแผนที่อื่น ๆ และความสัมพันธ์ของรูปทรงที่เลือกและวัตถุที่มีจุดอ้างอิง Geodetic หรือสถานที่สำคัญในระหว่างการสำรวจเชิงเส้นและยังอยู่ในการศึกษาของ การเปลี่ยนแปลงของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและทางสังคมและเศรษฐกิจในแถบแคบ ๆ ของภูมิประเทศ ในการสำรวจเส้นทางที่เป็นตัวแทนของหลักสูตรที่เกิดขึ้นจริงของการสำรวจและเครื่องบินลักษณะแนวนอน (รวมถึงภูมิประเทศถ้าจำเป็น) ทั้งสองข้างของมันอยู่ในขอบเขตของการมองเห็นตรงที่มีจุดบน mapboard โดยใช้วิธีการของการสำรวจเครื่องมือ (เครื่องบิน โต๊ะ tachymetric และสำรวจ phototopographic เสาอากาศ) หรือการสำรวจสำรวจ


สำรวจเส้นทางการเดินทางระดับพื้นดินได้รับการใช้อย่างกว้างขวางมานานหลายศตวรรษในการทำแผนที่พื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ ในศตวรรษที่ 20 การสำรวจเส้นทางทางอากาศ (ประโยชน์และไม่บ่อยสำรวจสำรวจจากทางอากาศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างการสังเกต aerovisual) ได้เข้ามาเพื่อใช้ในการนอกเหนือไปจากระดับพื้นดินการสำรวจเส้นทาง สำรวจเส้นทางที่ทำจากเครื่องบินที่ทำส่วนใหญ่เป็นชุดของงานสำรวจเพื่อเสริมการสำรวจขนหัวลุกเบ็ดเสร็จ นี้จะทำในระดับขนาดใหญ่และอยู่ภายใต้เงื่อนไขการสำรวจที่แตกต่างกัน (เพื่อวัตถุประสงค์ในการออกมาด่าวัตถุโดยเฉพาะอย่างยิ่ง) สำรวจเส้นทางการเดินทางทางอากาศจะทำยังเพื่อจุดประสงค์ที่เฉพาะเจาะจงเช่นการบันทึกเงื่อนไขที่น้ำแข็งในทะเลขอบเขตของน้ำท่วมและศูนย์ของป่า


 การประยุกต์ใช้

วัตถุประสงค์ คือ เพื่อให้การก่อสร้างถูกต้องตามแบบเป็นการควบคุมการก่อสร้างและตรวจสอบงานก่อสร้างต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดเส้นทางเกรด ฯลฯ ทางรถไฟทางหลวงหรือสายไฟ หรือสิ่งก่อสร้างอื่นๆ
1. ตรวจสอบหมุดที่มีอยู่แล้ว การกำหนดหมุดขั้นสุดท้ายเพื่อ การก่อสร้าง: POT, PI, RP, PC, PT, center line, ระดับของ BM
2. กำหนดหมุดเพื่อการก่อสร้าง (Setting construction stakes)
3. การทำ Cross section
4. สำรวจเขตกรรมสิทธิ์ทาง



เช่น ปราสาทนครวัดแห่งอาณาจักรขอม ใช้ LiDAR เป็นระบบการสํารวจ รูปแบบใหม่ที่สามารถสํารวจรังวัดค่าระดับที่มีความหนาแน่น และมีความละเอียดสูงด้วยการฉายแสงเลเซอร์จากอากาศยานลงไป คุณสมบัติคือ ได้รับข้อมูลค่าพิกัด และค่าระดับห่างกันทุก 2 เมตร.ซึ่งหนาแน่นมาก มีความละเอียดเส้นชั้นความสูง 15 เซนติเมตร โดยประมาณ สามารถรังวัดพื้นดินที่มีต้นไม้ปกคลุมได้ (เมื่อแสงเลเซอร์สามารถทำลงสู่พื้นดินบางจุดในบริเวณนั้น) ไม่จําเป็นต้องทําการสํารวจภาคพื้นดินพร้อมกับการบินถ่ายภาพ สามารถแยกแยะวัตถุภาคพื้นดินได้ด้วยสายตา ความหนาแน่นของตําแหน่งจุดระดับสูง ปริมาณข้อมูลยิ่งมาก และมีความยุ่งยากมากตามไปด้วย


                                                           ที่มา :      http://www.prweb.com/releases/2013/3/prweb10557339.htm
                                                                                             http://dictionary.reference.com/browse/route+survey